09.การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์-หญ้าแฝกดอยตุง
การปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นับแต่วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นวันเริ่มแรกที่มีการนำหญ้าแฝกจากแปลงขยายพันธุ์ตำบลห้วยไคร้ไปปลูกที่ กม.8 ของทางขึ้นพระธาตุดอยตุงสายใหม่ จนถึงปัจจุบันได้มีการปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่ปัญหาอีกหลายแห่ง โดยใช้ระยะปลูกระหว่างต้นในแถว 10 ซม. ระยะระหว่างแถว ในแนวดิ่ง 1 หรือ 2 เมตร ส่วนจำนวนแถวขึ้นอยู่กับความลาดชันของดินตัดและดินถม นอกจากนั้นกรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมป่าไม้ ศูนย์บำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพติด บริษัททนาวุติ จำกัด และชาวบ้าน ยังได้ร่วมในกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก สำหรับพื้นที่ระยะเวลาจำนวนและระยะทาง ที่มีการปลูกแฝกปรากฏอยู่ในตาราง
หญ้าแฝกที่ปลูกส่วนใหญ่เจริญงอกงามดี โดยเฉพาะพวกที่มีการให้น้ำเป็นครั้งคราว หรือที่ปลูกในช่วงมีฝน พวกที่การเจริญเติบโตชะงักงันมักเป็นพวกที่ปลูกไว้ตาม Back Slope สูงๆ หรือ Side Slope ที่มีความลาดชันมาก ทำให้ต้นกล้าหญ้าแฝกไม่ได้รับการรดน้ำเพียงพอในระยะหลังปลูกใหม่ๆ นอกจากนั้นดินบริเวณที่ปลูกยังเป็นดินเลวและมีหินปะปนอยู่มาก หญ้าแฝกที่ปลูกในบริเวณที่มีหญ้าคา ตองก๋งหรือวัชพืชอื่นขึ้นอยู่หนาแน่น หรือใต้ร่มเงาไม้ ไม่ไคร่เจริญเติบโตเนื่องจากถูกบังแสง สำหรับหญ้าแฝกที่ปลูกไว้ในบริเวณที่เป็นทางไหลของน้ำ น้ำจะชะหญ้าแฝกบางกอให้ไหลออกนอกแนว แต่ก็ไม่ถูกชะจนหลุดออกเพราะรากหญ้าแฝกซึ่งยาวมากเกาะดินไว้
การขยายพันธุ์หญ้าแฝกในโครงการ (ก.พ. 35 - 30 มิ.ย. 36)
วิธีขยายพันธุ์ | สถานที่ขยายพันธุ์ | ถุง (=4 ต้น) | ต้น |
1. ชำต้นในถุงบรรจุดิน (การแตกกอเกิดขึ้นประมาณเดือนละ 2 เท่า | 1. ศูนย์ศึกษาพัฒนาหญ้าแฝก บ้านเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ 2. ศูนย์บำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพติด บ้านผาหมี 3. ปางป่าไม้ 7 ปาง (ปาง 1,2,3,7,8,9,10) 4. กรมวิชาการเกษตร (อ่างป่ากล้วย) 5. กรมพัฒนาที่ดิน (ศูนย์พัฒนาที่ดินเชียงราย) 6. กรมส่งเสริมการเกษตร (อ่างห้วยไร่) |
3,192,000 207,000 523,000 200,000 350,000 200,000 |
12,768,000 828,000 2,092,000 800,000 1,400,000 800,000 |
รวม | |||
2. ปักดำต้นลงแปลง (การแตกกอเกิดขึ้น 2 เท่า ทุก 2 เดือน) | 1. ศูนย์ศึกษาพัฒนาหญ้าแฝก 2. ปางป่าไม้ 7 ปาง |
5 ไร่ 15 ไร่ ไร่ = 500,000 ต้น |
500,000 1,500,000 |
รวม | 20 | 2,000,000 | |
รวมทั้งสิ้น | 20,688,000 |