ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ"

(<div style="color:darkgreen">'''พุทธศักราช ๒๕๓๕ : โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดสกลนคร'''</div>)
แถว 1: แถว 1:
==<div style="color:darkgreen">'''พุทธศักราช ๒๕๓๐ : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย'''</div>==
+
__NOTOC__
 +
 
 +
==='''พุทธศักราช ๒๕๓๐ : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย'''===
  
 
ปลูกคนปลูกสิ่งแวดล้อม : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย
 
ปลูกคนปลูกสิ่งแวดล้อม : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย
แถว 5: แถว 7:
 
เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๐ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ดอยตุง ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูสภาพป่าและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของราษฎรบนที่สูง ตามพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ความว่า<span class="kgreen">"...ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง..."</span>
 
เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๐ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ดอยตุง ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูสภาพป่าและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของราษฎรบนที่สูง ตามพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ความว่า<span class="kgreen">"...ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง..."</span>
  
[[ภาพ:กับสมเด็จย่า.jpg|center]]
+
[[ภาพ:กับสมเด็จย่า.jpg|เสด็จพระราชดำเนินดอยตุงพร้อมสมเด็จย่า|center]]
 +
 
 +
 
  
==<div style="color:darkgreen">'''พุทธศักราช ๒๕๓๒ : แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน'''</div>==
+
==='''พุทธศักราช ๒๕๓๒ : แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน'''===
  
 
<div style="width:100%; display:table">
 
<div style="width:100%; display:table">
แถว 15: แถว 19:
  
 
<gallery>
 
<gallery>
Image:ทศ7-11.jpg
+
Image:ทศ7-11.jpg|ทรงพระราชทานคำแนะนำแก่ข้าราชการ
Image:ทศ7-12.jpg
+
Image:ทศ7-12.jpg|
Image:ทศ7-13.jpg
+
Image:ทศ7-13.jpg|
  
 
วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ เสด็จพระราชดำเนิน ไปบ้านนานกเค้า จังหวัดสกลนคร
 
วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ เสด็จพระราชดำเนิน ไปบ้านนานกเค้า จังหวัดสกลนคร

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:33, 21 กรกฎาคม 2551


พุทธศักราช ๒๕๓๐ : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย

ปลูกคนปลูกสิ่งแวดล้อม : โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๐ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ดอยตุง ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูสภาพป่าและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของราษฎรบนที่สูง ตามพระราชกระแสรับสั่งในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ความว่า"...ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง..."

เสด็จพระราชดำเนินดอยตุงพร้อมสมเด็จย่า


พุทธศักราช ๒๕๓๒ : แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

แก้ปัญหาโลกร้อน : ศึกษาวิจัยการผลิตออกซิเจนของต้นไม้

แนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหานี้ ทรงมีแนวทางวิธีที่จะใช้วิธีทางธรรมชาติเข้าแก้ไขธรรมชาติด้วยกันเอง โดยมีพระราชดำริให้นักวิชาการ หรือศูนย์ศึกษาฯ ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยหาปริมาณของออกซิเจนที่ต้นไม้ผลิตออกมาและศึกษาว่าพืชชนิดใด จะสามารถผลิตออกซิเจนได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การศึกษาหาปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในพืชต่างๆ เนื่องจากพืชที่เก็บคาร์บอนไว้นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเป็นดังนี้ก็สามารถกำหนดจำนวนคาร์บอนได้ออกไซด์ที่พืชดูดซับเข้าไป และจำนวนออกซิเจนที่พืชคายออกมา และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันก็จะสามารถทราบได้ว่าพืชชนิดใดสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีกว่า หรือสามารถคายออกซิเจนได้มากที่สุด ก็จะส่งเสริมให้มีการปลูกต้นไม้ชนิดนั้นให้มากๆ เพราะนอกจากจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศแล้ว ยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนด้วย ซึ่งจะเป็นการบรรเทาปัญหากรีนเฮาส์เอฟเฟ็ค ได้วิธีหนึ่ง

พุทธศักราช ๒๕๓๓ : โครงการแกล้งดิน

วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๓๓ เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังศูนย์ศึกษาการพัฒนา พิกุลทอง

ดินเปรี้ยว : โครงการแกล้งดิน

การปรับปรุงดินในพื้นที่ลุ่มต่ำ (ดินพรุ) ซึ่งเป็นดินอินทรีย์และดินเปรี้ยวจัด ได้ดำเนินการจัดทำแปลงทดลองแบ่งพื้นที่ออกเป็นแปลง ซึ่งมีคันดินล้อมรอบและสามารถสูบน้ำเข้า-ออก เพื่อให้ดินแต่ละแปลงแห้งและเปียกในระยะเวลาต่าง ๆ กันตามที่กำหนดไว้ ในขณะเดียวกันได้เก็บตัวอย่างดินของแต่ละแปลงเป็นระยะ ๆ มาวิเคราะห์ศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง ความเป็นกรดของดิน และได้ทำการทดลองปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เช่น มะพร้าวน้ำหอม ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล ผักพืชไร่ รวมทั้งข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ ข้าวพันธุ์ลูกแดง ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองสามารถทดต่อสภาพดินเปรี้ยวได้

"...ให้มีการทดลองทำดินเปรี้ยวให้เปรี้ยวจัด โดยการระบายน้ำให้แห้งและศึกษาวิธีการแก้ดินเปรี้ยว เพื่อนำผลไปแก้ปัญหาดินเปรี้ยวให้แก่ราษฎรที่มีปัญหาในเรื่องนี้ในเขตจังหวัดนราธิวาส โดยให้ทำโครงการศึกษาทดลอง ๒ ปี และพืชที่ทดลองควรเป็นข้าว..."

พุทธศักราช ๒๕๓๕ : โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดสกลนคร

พัฒนาลุ่มน้ำทั้งระบบ : โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ

ทศ7-25.jpg
"ตัวยึกยือ" หรือที่บางคนพิจารณาว่าคล้ายกระบวยยักษ์ บางคนก็ว่าเหมือนปลาดุกที่เหลือแต่ก้าง ประกอบด้วยลักษณะของส่วนหัวอันหมายถึงหนองหาน กระดูกสันหลังหมายถึงลำน้ำก่ำ ข้อที่เป็นปล้อง ๆ หมายถึง อาคารบังคับน้ำ ขอบลำตัวเปรียบเสมือนคลองระบายน้ำที่คู่ขนานไปกับลำน้ำก่ำ และส่วนหางก็คือ แม่น้ำโขง



**ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ ทศวรรษแห่งการพัฒนา จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ