ปริญญาฯ-มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:37, 22 มกราคม 2551 โดย Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม)
คำประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานินิศาสตดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
วันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๕
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
วันนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสรับเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ยังทรงครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน และทรงเป็นประมุขแห่งพระราชวงศ์ที่มิใช่พระราชวงศ์ในเครือจักรภพ
โอกาสอันดีเช่นนี้ น่าจะเตือนใจพวกเราให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระประมุขและพระราชวงศ์ผู้ทรงสถาปนาและอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยต่างๆ ในหลายประเทศตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ให้จดจำรำลึกถึง "นักบุญหลวง" ผู้ทรงสถาปนาโบสถ์ประจำคิงส์คอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ในทางภูมิปัญญาอันล้ำลึก และหวนคำนึงถึงมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในข้อที่ว่า
"พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณทรงรังสรรค์แต่ครั้งโบราณกาล
ทั้งหอคอยตระหง่าน สุสาน และอนุสาวรีย์ เรียงราย อีกวิถีหลายสายเพื่อรองบาทบทจรแห่งปราชญ์และบุรุษเกรียงไกร"
การอุปถัมภ์การศึกษาในประเทศไทยเป็นโบราณราชประเพณีเช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ พ่อขุนราคำแหงมหาราชทรงสถาปนาศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ส่วนในสมัยใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมอัยกาธิราชในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียมากมาย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นได้กลายเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชนก สมเด็จพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงศึกษาวิชาการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทรงมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งคณะแพทย์แห่งโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาส่งนักศึกษาแพทย์ไทยไปศึกษายังต่างประเทศด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งมิใช่เมืองเคมบริดจ์เก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก แต่เป็นเมืองเคมบริดจ์ใหม่ในรัฐแมสซาชูเซตส์แห่งสหรัฐอเมริกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา ณ มหาวิทยาลัยโลซาน แม้จะสนพระราชหฤทัยในสาขาวิทยาศาสตร์แต่ได้ทรงเปลี่ยนไปศึกษากฎหมายและรัฐประศาสนศาสตร์ ในฐานะพระมหากษัตริย์ ทรงอุปถัมภ์สยามสมาคมและองค์กรทางการศึกษาและอาชีพมากมาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อตั้งทุนภูมิพลเพื่อพระราชทานแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทุนมูลนิธิอานันทมหิดลเพื่อพระราชทานแก่บัณฑิตไทยที่มีผลการศึกษายอดเยี่ยมเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ ในสาขาแพทยศาสตร์ และเมื่อไม่นานมานี้ได้รวมถึงสาขาวิทยาศาสตร์และเกษตรศาสตร์ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาด้วยพระองค์เอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในด้านการสาธารณสุขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการศึกษา ทรงรณรงค์เพื่อต่อสู้กับอหิวาตกโรค เพื่อควบคุมโรคเรื้อน และเพื่อบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคโปลิโอ ทรงพระกรุณาพระราชทานความช่วยเหลือสนับสนุนกิจการเหล่านี้ด้วยทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง พระราชทานทุนทรัพย์และสิ่งของตลอดจนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และเรือสำหรับสภากาชาดไทยซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นสภานายิกา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใฝ่พระราชหฤทัยในการนำประโยชน์จากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์สมัยใหม่มาใช้ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร และก็ยังทรงสนพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งในศิลปวัฒนธรรมไทยโบราณและ การศาสนาอีกด้วย ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนาในประเทศไทย ทรงส่งเสริมศิลปะและดนตรีประจำชาติ (ทั้งนี้มิใช่จะทรงละเว้นความสนพระราชหฤทัยในศิลปะและดนตรีแขนงอื่นแต่อย่างใด) ทั้งยังทรงพระราชอุตสาหะในการธำรงรักษาความพิศุทธ์ของภาษาไทย
สุดท้ายนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมา ณ มหาวิทาลัยเมลเบิร์น บ่ายวันนี้ในฐานะพระประมุขของประเทศที่พวกเราทั้งหลายได้รู้จักพสกนิกรของพระองค์และเรียนรู้ที่จะชื่นชอบในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยซึ่งเป็นอาคันตุกะของเราในรัฐวิกตอเรีย ในการประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราขอแสดงความชื่นชมนักศึกษาเหล่านั้นและประชาชนชาวไทยทั้งประเทศด้วย
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน ๒๕๐๕
พระราชทานพระราชดำรัสในโอกาสทมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
หน้าแรกประมวลคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ | บัญชีปริญญาดุษฎีบัณฑิตฯ | บัญชีตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ฯ | บัญชีรางวัลฯ | พระราชกรณียกิจ |