พระราชอำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:55, 2 ตุลาคม 2552 โดย Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ทรงประกอบพระราชกรณียกิจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหาในระบอบประชาธิปไตย มีพระราชอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ผ่านสถาบันต่างๆ ของรัฐ คือ บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓ ได้กำหนดว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้”

รวมถึงมาตรา ๘ ที่บัญญัติไว้ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้” โดยจะไม่ทรงประกอบการใดทางการเมืองด้วยพระองค์เอง ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ หากเกิดความคลาดเคลื่อนผิดพลาดใดๆ ย่อมถือว่ามิได้ทรงกระทำผิด เพราะบุคคลที่รับผิดชอบต่อความคลาดเคลื่อนผิดพลาดนั้น คือองค์กรเจ้าของเรื่องและผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ที่ถือเป็นผู้แทนขององค์กรนั้นๆ ในรัฐธรรมนูญ ยังบัญญัติถึงพระราชฐานะและพระราชอำนาจอื่นๆ อีกหลายประการ ได้แก่ “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก” ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๙ และ “พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย” ตามมาตรา ๑๐ รวมถึง “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์” ตามมาตรา ๑๑

บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญได้บัญญัติถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะในการเลือกและแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิมาดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรี ข้าราชการในพระองค์ และสมุหราชองครักษ์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระรัชทายาทเพื่อสืบราชสันตติวงศ์ตามพระราชอัธยาศัย ตามมาตรา ๑๒ ๑๗ ๑๘ และ ๒๒ ตามลำดับ

การใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญผ่านองค์กร

021009-การใช้พระราชอำนาจ.jpg

การใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามนิติราชประเพณี

021009-การใช้พระราชอำนาจ2.jpg

ที่มา: รัฐสภาไทยใต้ร่มพระบารมี ๖๐ ปี ทรงครองราชย์ พุทธศักราช ๒๕๔๙ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ทรงสร้างพื้นฐานประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพื้นฐานประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีรัฐสภามีรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในต้นรัชกาล ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้มีความก้าวหน้าในระยะเวลาต่อมา ทรงใช้พระราชอำนาจผ่านฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการอย่างถูกต้อง บริสุทธิ์ เที่ยงธรรม อันเป็นการประกอบพระราชกรณียกิจภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้งานบริหารประเทศดำเนินไปได้ราบรื่น

ตลอดเวลา ๖๐ ปี แห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว ๑๓ ฉบับ โดยได้พระราชทานรัฐธรรมนูญครั้งแรกเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ และเสด็จพระราชดำเนินไปในรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไป ๓๓ ครั้ง โดยมีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ นอกจากนี้ ทุกๆ ครั้งที่คณะผู้บริหารประเทศขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายคำสัตย์ปฏิญาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานคำแนะนำรวมถึงพระบรมราโชวาทให้ตั้งตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริตและดำเนินการใดๆ ด้วยความตั้งใจเพื่อประโยชน์แห่งส่วนรวม อันเป็นแนวทางในการพัฒนาและบริหารประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้ามั่นคงสืบไป