ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย"
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) (สร้างหน้าใหม่: <center>'''ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำ...) |
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) (→ประวัติความเป็นมา - วัตถุประสงค์) |
||
แถว 6: | แถว 6: | ||
แต่เดิมสภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แต่ภายหลังได้มีราษฎรเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า ทำลายป่า ทำการเกษตรอย่างผิดวิธี และใช้สารเคมีที่ส่งผลเสียต่อดินและน้ำ ขาดการบำรุงรักษาคุณภาพดิน ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเปลี่ยนแปรสภาพไปอย่างรวดเร็ว หน้าดินถูกชะล้างความอุดมสมบูรณ์ไปหมดสิ้น ดินกลายเป็นดินทรายและดินดานที่ไม่มีแร่ธาตุ ความสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงความแห้งแล้งของพื้นที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง | แต่เดิมสภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แต่ภายหลังได้มีราษฎรเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า ทำลายป่า ทำการเกษตรอย่างผิดวิธี และใช้สารเคมีที่ส่งผลเสียต่อดินและน้ำ ขาดการบำรุงรักษาคุณภาพดิน ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเปลี่ยนแปรสภาพไปอย่างรวดเร็ว หน้าดินถูกชะล้างความอุดมสมบูรณ์ไปหมดสิ้น ดินกลายเป็นดินทรายและดินดานที่ไม่มีแร่ธาตุ ความสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงความแห้งแล้งของพื้นที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง | ||
− | + | เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เขตพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ความว่า "หากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นทะเลทรายในที่สุด" และให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้นในพื้นที่ดำเนินการประมาณ 8,700 ไร่ ให้เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ด้านป่าไม้เอนกประสงค์ ศึกษารูปแบบการพัฒนาเกษตรกรรมที่เหมาะสมควบคู่กับการอนุรักษ์และปลูกป่า จัดหาแหล่งน้ำ โดยเน้นการปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินงานในรูปแบบ "ป่าไม้หมู่บ้าน" คือให้ราษฎรดำเนินการเองเป็นเจ้าของเอง ปลูกป่าและบำรุงดูแลรักษาต้นไม้เอง ระยะแรกให้หน่วยงานราชการเข้าไปสาธิตและแนะนำให้ราษฎรรู้จักการเพาะต้นกล้า ซึ่งได้เพาะกล้าไม้ ทั้งไม้โตเร็ว ไม้ผล และไม้เศรษฐกิจ พร้อมทั้งได้ศึกษาการป้องกันไฟป่าแบบ "ระบบป่าเปียก" ต่อมาได้มีการปลูกหญ้าแฝก เพื่อการปรับบำรุงดิน เพราะหญ้าแฝกเปรียบเสมือน กำแพงธรรมชาติที่มีชีวิต จะช่วยชะลอความเร็วของน้ำที่ไหลบ่าสามารถดักตะกอนดินทำให้เกิดหน้าดินและความชื้นในดินด้วย | |
− | + | นอกจากนี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยังมีการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพในด้านต่างๆ เช่น เกษตรแบบผสมผสาน การเกษตรในระบบวนเกษตรหรือเกษตรธรรมชาติ การฟื้นฟูสภาพป่าไม้และป่าไม้เศรษฐกิจ การเพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะเนื้อทราย ซึ่งเป็นสัตว์พื้นเพดั้งเดิมและนำไปปล่อยให้ใช้ชีวิตกลับคืนสู่ธรรมชาติดังเช่นอดีตที่ผ่านมา | |
</div> | </div> | ||
− | |||
=='''การดำเนินงานภายในศูนย์'''== | =='''การดำเนินงานภายในศูนย์'''== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:14, 22 เมษายน 2551
เนื้อหา
ประวัติความเป็นมา - วัตถุประสงค์
แต่เดิมสภาพภูมิประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก แต่ภายหลังได้มีราษฎรเข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า ทำลายป่า ทำการเกษตรอย่างผิดวิธี และใช้สารเคมีที่ส่งผลเสียต่อดินและน้ำ ขาดการบำรุงรักษาคุณภาพดิน ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเปลี่ยนแปรสภาพไปอย่างรวดเร็ว หน้าดินถูกชะล้างความอุดมสมบูรณ์ไปหมดสิ้น ดินกลายเป็นดินทรายและดินดานที่ไม่มีแร่ธาตุ ความสมดุลทางธรรมชาติถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงความแห้งแล้งของพื้นที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เขตพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ความว่า "หากปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นทะเลทรายในที่สุด" และให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้นในพื้นที่ดำเนินการประมาณ 8,700 ไร่ ให้เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ด้านป่าไม้เอนกประสงค์ ศึกษารูปแบบการพัฒนาเกษตรกรรมที่เหมาะสมควบคู่กับการอนุรักษ์และปลูกป่า จัดหาแหล่งน้ำ โดยเน้นการปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินงานในรูปแบบ "ป่าไม้หมู่บ้าน" คือให้ราษฎรดำเนินการเองเป็นเจ้าของเอง ปลูกป่าและบำรุงดูแลรักษาต้นไม้เอง ระยะแรกให้หน่วยงานราชการเข้าไปสาธิตและแนะนำให้ราษฎรรู้จักการเพาะต้นกล้า ซึ่งได้เพาะกล้าไม้ ทั้งไม้โตเร็ว ไม้ผล และไม้เศรษฐกิจ พร้อมทั้งได้ศึกษาการป้องกันไฟป่าแบบ "ระบบป่าเปียก" ต่อมาได้มีการปลูกหญ้าแฝก เพื่อการปรับบำรุงดิน เพราะหญ้าแฝกเปรียบเสมือน กำแพงธรรมชาติที่มีชีวิต จะช่วยชะลอความเร็วของน้ำที่ไหลบ่าสามารถดักตะกอนดินทำให้เกิดหน้าดินและความชื้นในดินด้วย
นอกจากนี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยังมีการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพในด้านต่างๆ เช่น เกษตรแบบผสมผสาน การเกษตรในระบบวนเกษตรหรือเกษตรธรรมชาติ การฟื้นฟูสภาพป่าไม้และป่าไม้เศรษฐกิจ การเพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะเนื้อทราย ซึ่งเป็นสัตว์พื้นเพดั้งเดิมและนำไปปล่อยให้ใช้ชีวิตกลับคืนสู่ธรรมชาติดังเช่นอดีตที่ผ่านมา
การดำเนินงานภายในศูนย์
แผนงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ
* งานอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศน์ ๑. โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ๒. โครงการฟื้นฟูสภาพป่าไม้อนุรักษ์และป่าไม้เศรษฐกิจ ๓. โครงการปรับเปลี่ยนพันธุ์ไม้ในแปลงป่าปลูกเดิม ๔. โครงการเพาะกล้าไม้ ๕. โครงการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า ๖. โครงการจัดการควบคุมไฟป่า ๗. โครงการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๘. โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ๙. โครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูระบบนิเวศน์
* งานอนุรักษ์ดินและน้ำ
๑. โครงการฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดินและอนุรักษ์ดินและน้ำ
แผนงานศึกษาและพัฒนาตามแนวพระราชดำริ
* งานศึกษาและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
๑. โครงการศึกษาการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์เพื่อการอนุรักษ์ ๒. โครงการศึกษาทดลองการใช้พลังงานธรรมชาติ ๓. โครงการศึกษาการใช้ประโยชน์หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ๔. โครงการศึกษาและสำรวจทรัพยากรป่าไม้
* งานศึกษาและพัฒนาด้านความเป็นอยู่พื้นฐานและการประกอบอาชีพ
๑. โครงการศึกษาทดลองการใช้ประโยชน์จากต้นมะม่วงหิมพานต์ ๒. โครงการศึกษาทดลองการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์เพื่อส่งเสริมอาชีพ ๓. โครงการศึกษาทดลองรูปแบบการเกษตรแบบยั่งยืน ๔. โครงการศึกษาทดลองด้านพืชเพื่อส่งเสริมอาชีพ
แผนงานขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีตามแนวพระราชดำริ
* งานขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสภาพแวดล้อม ๑. โครงการขยายผลการใช้ประโยชน์หญ้าแฝก ๒. โครงการถ่ายทอดข้อมูลดินและการใช้ที่ดิน •งานขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านความเป็นอยู่พื้นฐาน และการประกอบอาชีพ ๑. โครงการถ่ายทอดและขยายผลเทคโนโลยีการเกษตร
แผนงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
* ด้านเศรษฐกิจ ๑. โครงการส่งเสริมเกษตรกรเพาะชำกล้าไม้หายาก ๒. โครงการพัฒนาส่งเสริมการเลี้ยงโคนม ๓. โครงการส่งเสริมอาชีพการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ๔. โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน ๕. โครงการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร 6. โครงการส่งเสริมการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ
* ด้านสังคม
๑. โครงการพัฒนาเยาวชนและสตรี ๒. โครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ๓. โครงการสนับสนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ๔. โครงการพัฒนาสุขภาพอนามัย ๕. โครงการด้านการศึกษา
* ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
๑. โครงการจัดหาน้ำและบริการจัดการน้ำ ๒. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
แผนงานบริหารโครงการ
* งานอำนวยการ ๑. โครงการบริหารจัดการ ๒. โครงการจัดการและจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน ๓. โครงการสำรวจข้อมูลดินและวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ๔. โครงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินและรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดิน ๕. โครงการรักษาความปลอดภัย
* งานประชาสัมพันธ์
๑. โครงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ๒. โครงการพัฒนาและจัดการแหล่งท่องเที่ยว
พื้นที่ดำเนินงาน
๒. พื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของระบบนิเวศน์ ได้แก่ พื้นที่บริเวณเขาสามพระยา พื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตะแปด และบริเวณเขาหุบสบู่-หนองก้าง จำนวน 19,700 ไร่
๓. พื้นที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จำนวน 340 ไร่
๔. หมู่บ้านเป้าหมายในการศึกษา พัฒนา ขยายผลและถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยเป็นหมู่บ้านภายในศูนย์ศึกษา การพัฒนาห้วยทราย ฯ จำนวน 2 หมู่บ้าน และเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จำนวน 16 หมู่บ้าน
๕. ศูนย์สาขา โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม จังหวัดราชบุรี่
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- กรมปศุสัตว์
- สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
- กรมป่าไม้
- กรมประมง
- สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
- กรมชลประทาน
- กรมที่ดิน
- สภากาชาดไทย
- กรมพัฒนาที่ดิน
- กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- กรมวิชาการเกษตร
- กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- กรมการพัฒนาชุมชน
- กรมอาชีวศึกษา
- มหาวิทยาลัยมหิดล
- กรมส่งเสริมการเกษตร
- กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
- มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท
- กรมการปกครอง
- สำนักงานการประถมศึกษา
ที่ตั้ง-ติดต่อ
โทรศัพท์ 0-3259-3252-3 โทรสาร 0-3259-3252
ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ