ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การคมนาคม"
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) (New page: ===ถนนพระราชดำริสายแรก=== กก ปป ===คมนาคมในมหานคร=== ปป ปป ---- <nowiki>**</nowiki>{{แม่แบบ:...) |
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
(ไม่แสดง 39 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
แถว 1: | แถว 1: | ||
− | === | + | <div id="bg_g1t"> </div> |
− | + | <div id="bg_g1"> | |
− | + | <div id="bg_g0t"> | |
+ | __NOTOC__ | ||
+ | [[ภาพ:คมนาคม1.jpg|ในหลวงทรงประทับบนสะพานอย่างใกล้ชิดกับประชาชน|center]] | ||
+ | <center><h3>การสร้างเส้นทางคมนาคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ</h3></center> | ||
+ | <div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยด้านการคมนาคมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ความพอพระราชหฤทัยในเรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่พระประยูรญาติ ดังจะเห็นได้จากการที่ทรงได้รับพระราชทานของฝากเป็นรถเด็กเล่นจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดการเล่นรถไฟ และเมื่อทรงเจริญพระชนมายุขึ้นทรงสามารถประกอบเรือเดินสมุทร เรือรบ และเครื่องบินจำลองด้วยพระองค์เอง | ||
− | = | + | เมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระราชกรณียกิจที่สำคัญประการหนึ่งเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรทั่วประเทศคือ การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม เพื่อเปิดประตูสู่พื้นที่ชนบท และแก้ปัญหาจราจรในเขตเมืองมากมายหลายโครงการด้วยกัน เพื่อสร้าง “ความมั่นคงผาสุก และความร่มเย็นอย่างยั่งยืน” ตอบสนองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ |
− | + | </div> | |
− | + | '''ทรงเปิดเส้นทางการพัฒนาสู่ชนบทที่ห่างไกล''' | |
+ | <div class="kindent">นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้วยพระองค์เองโดยไม่ต้องผ่านคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปทรงเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของพสกนิกรอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เริ่มจากการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพุทธศักราช ๒๔๙๔ ทำให้ทรงตระหนักถึงปัญหาของพสกนิกร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร พระราชภารกิจประการหนึ่งคือการ “ตัดเส้นทาง” เปิดประตูนำความเจริญสู่พื้นที่ชนบท | ||
+ | </div> | ||
− | --- | + | <center> |
− | < | + | <div style="display:table; width:90%; border:thin solid red" align="center"> |
+ | <div style="display:table; width:90%; margin-left:5%;text-align:left"> | ||
+ | ==='''พุทธศักราช ๒๔๙๕ ถนนพระราชดำริสายแรก'''=== | ||
+ | <div class="kindent">หากมองย้อนกลับไปในช่วงต้นรัชกาล เราจะเห็นภาพเส้นทางเกวียนจำนวนเส้นทางระหว่างเมืองและชุมชนก็มีน้อยหรือถนนที่มีฝุ่นฟุ้งตลบ ทางที่คดเคี้ยวเป็นหลุมเป็นบ่อ ต้องใช้เวลานานในการเดินทาง ทำให้ประชาชนในชนบทติดต่อชุมชนเมืองอย่างยากลำบาก อีกทั้งบริการของรัฐก็เข้าไปไม่ถึง ได้พระราชทานพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า | ||
+ | <span style="color:darkgreen">"...ที่ข้างในหนองพลับแต่ก่อนนี้เข้าไม่ได้ แค่ครึ่งทางไปหนองพลับก็ไม่ได้ .. ปี ๒๔๙๕ หรือ ๙๖ เพิ่งได้รถบลูโดเซอร์ แล้วเอารถไปให้ค่ายนเรศวรให้สร้างถนนให้ไถถนนเข้าไปถึงห้วยมงคล ซึ่งเดี๋ยวนี้ห้วยมงคล ๒๐ นาทีก็ถึง ตอนนั้นเข้าไปตั้งแต่ ๘-๙ โมงเช้า เข้าไปถึงร่วมบ่ายโมง ไปรถจิ๊ปเข็นเข้าไป ลากเข้าไป..." | ||
+ | </span> | ||
+ | ที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กไฟก็เช่นเดียวกัน แม้จะขึ้นอยู่กับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอยู่ห่างไกลความเจริญไม่ถึง ๒๐ กิโลเมตร แต่ก็ยังไม่มีถนนจากหมู่บ้านสู่ตลาดหัวหิน ประชาชนได้รับความลำบากในการเดินทางติดต่อกับภายนอกอย่างมาก | ||
+ | </div> | ||
+ | [[ภาพ:คมนาคม2.jpg|รถพระที่นั่งติดหล่ม|left]]เช้าวันหนึ่ง รถยนต์พระที่นั่งบุกเข้าไปถึง "บ้านห้วยมงคล" แล้วไปตกติดหล่ม ลุงรวย งามขำ เกษตรกรพร้อมเพื่อนบ้านได้เข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ทราบว่าเจ้าของรถที่ขับมาติดหล่มอยู่นั้นเป็นใคร ภายหลังเมื่อเจ้าของรถลงมา จึงนึกได้ถึงคำบอกเล่าของผู้ใหญ่บ้านว่า "พระเจ้าอยู่หัว" กับ "สมเด็จพระราชินี" จะเสด็จพระราชดำเนินมาที่หัวหิน | ||
+ | <div class="kindent">ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ได้รับสั่งถามถึงปัญหาของหมู่บ้าน และทรงทราบว่าสิ่งที่ชาวบ้านห้วยมงคลต้องการมากที่สุดคือ "ถนน" ดังนั้นต่อมาอีกไม่นาน โครงการพระราชดำริเพื่อก่อสร้าง "ถนนห้วยมงคล" จึงได้เกิดขึ้น นับเป็นถนนพระราชดำริสายแรกที่ทอดไปสู่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั่วประเทศ</div> | ||
+ | </div> | ||
+ | </div></center> | ||
− | [[ | + | |
− | [[ | + | |
+ | [[ภาพ:011009-การคมนาคม-02.jpg|400px|center]] | ||
+ | <div class="kindent">ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่างๆ นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระตำหนักประจำภูมิภาคเพื่อเป็นฐานการทรงงาน ส่งผลให้มีการก่อสร้างเส้นทางสัญจรสายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นตามรอยพระยุคลบาท และทรงใช้เส้นทางเหล่านั้นในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกือบ ๔,๐๐๐ โครงการ ที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งล้วนเอื้อประโยชน์ต่อพสกนิกรทั้งในชนบทและชุมชนเมืองของไทยให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างพอเพียงและยั่งยืน | ||
+ | |||
+ | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ก่อสร้างถนนอีกหลายเส้นทางซึ่งนอกเหนือไปจากเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสัญจรของราษฎร ยังรวมถึงเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ | ||
+ | เป็นสำคัญอีกด้วย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพื้นที่อันตราย เช่น เส้นทางสายน่าน - ปัว - ทุ่งช้าง - ปอน - ห้วยโก๋น อันเป็นเส้นทางที่ผู้ก่อการร้ายคุกคาม เพื่อขัดขวางการก่อสร้างทางมากกว่า ๑,๗๐๐ ครั้ง ทำให้สูญเสียเครื่องจักรและชีวิตของนายช่าง คนงาน ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และพนักงาน ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นจำนวนมาก แม้จะเต็มไปด้วยภัยอันตรายนานา แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มิได้ทรงหวั่นยังเสด็จพระราชดำเนินไปเพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงและหน่วยราชการอื่นๆ ในการบุกเบิกสร้างทางเหล่านั้น | ||
+ | |||
+ | ช่วงพุทธศักราช ๒๕๒๑ - ๒๕๒๓ และ ๒๕๒๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้ดำเนินการปรับปรุงถนนในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่ออำนวยประโยชน์ให้พสกนิกรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ สามารถเดินทาง | ||
+ | ติดต่อถึงกันด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตลอดเส้นทาง โครงการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวมีจำนวนมากถึง ๔๕ สาย ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางในภาคเหนือรองลงมาคือ ภาคใต้ | ||
+ | |||
+ | การดำเนินงานตามโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำหรือฝายหรือโครงการฟาร์มตัวอย่างต่างๆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยังนำมาซึ่งการสร้างเส้นทางคมนาคมสายใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จ นั่นคือ นอกจากจะมีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างเพียงพอ มีทรัพยากรสำหรับการประกอบอาชีพให้มั่นคงแล้ว ยังต้องมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกเพื่อการติดต่อสัญจรของชาวบ้าน ซึ่งกรมทางหลวงชนบท หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบโดยตรงได้สนองตามพระราชดำริ ดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐาน เอื้อประโยชน์ต่อเกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้เป็นอย่างดี | ||
+ | |||
+ | พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปิดทางสร้างถนนในพื้นที่ชนบทได้สร้างคุณูปการต่างๆ มากมายทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นการเปิดเส้นทางเพื่อรับการพัฒนาในด้านต่างๆ ให้เข้าสู่ | ||
+ | พื้นที่ ช่วยให้การเดินทางสัญจรระหว่างชุมชนคล่องตัวและช่วยลดต้นทุนในการขนส่งผลผลิตไปสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ราษฎรมีงานทำ สามารถประกอบอาชีพภายในภูมิลำเนา ลดการเดินทางเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่ มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นและสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทำให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคงเข้มแข็งอย่างยั่งยืน | ||
+ | </div> | ||
+ | |||
+ | <center> | ||
+ | {| width="90%" border="1" | ||
+ | |align = "center" width="80"|พุทธศักราช||align = "center" width="250"|เส้นทาง||align = "center" width="250"|หมายเหตุ | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๔๙๕||* สายห้วยมงคล ประจวบคีรีขันธ์||เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๕๑๓||* สายอำเภอรามัน - บ้านตะโละหะลอ อำเภอรือเสาะ นราธิวาส|| เพื่อความมั่นคงทางการเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๕๑๙||* สายปราจีนบุรี - เขาใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๐๗๗ ปราจีนบุรี||เส้นทางสายยุทธศาสตร์ให้รถยนต์ทหารผ่าน เพื่อความมั่นคงของประเทศบริเวณชายแดนกัมพูชา | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๕๒๑||* สายอำเภอระแงะ - บ้านดุซงญอ - นิคมพัฒนาภาคใต้ นราธิวาส||เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๕๒๑||* สายบ้านสามแยก - อำเภอสุไหงปาดี นราธิวาส||เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม | ||
+ | |- | ||
+ | |align = "center"|๒๕๒๑||* สายบ้านวาก - บ้านใหม่ - บ้านแม่ตะไคร้ ทางหลวงหมายเลข ๑๒๒๙ เชียงใหม่ - ลำพูน||ปรับปรุงเส้นทางข้ามภูเขาระหว่างบ้านเปาสามขา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ไปอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม | ||
+ | |- | ||
+ | |}</center> | ||
+ | |||
+ | หมายเหตุ: ภายหลังจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้สร้างเส้นทางคมนาคมอย่างต่อเนื่อง | ||
+ | |||
+ | ที่มา: ทางหลวงตามรอยพระยุคลบาท พุทธศักราช ๒๕๕๐ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม | ||
+ | [[หมวดหมู่:พระราชกรณียกิจ]][[หมวดหมู่:คมนาคม สาธารณูปโภค สื่อสาร]] | ||
+ | </div></div> |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:47, 5 ตุลาคม 2552
การสร้างเส้นทางคมนาคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เมื่อเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระราชกรณียกิจที่สำคัญประการหนึ่งเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรทั่วประเทศคือ การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม เพื่อเปิดประตูสู่พื้นที่ชนบท และแก้ปัญหาจราจรในเขตเมืองมากมายหลายโครงการด้วยกัน เพื่อสร้าง “ความมั่นคงผาสุก และความร่มเย็นอย่างยั่งยืน” ตอบสนองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ
ทรงเปิดเส้นทางการพัฒนาสู่ชนบทที่ห่างไกล
พุทธศักราช ๒๔๙๕ ถนนพระราชดำริสายแรก
"...ที่ข้างในหนองพลับแต่ก่อนนี้เข้าไม่ได้ แค่ครึ่งทางไปหนองพลับก็ไม่ได้ .. ปี ๒๔๙๕ หรือ ๙๖ เพิ่งได้รถบลูโดเซอร์ แล้วเอารถไปให้ค่ายนเรศวรให้สร้างถนนให้ไถถนนเข้าไปถึงห้วยมงคล ซึ่งเดี๋ยวนี้ห้วยมงคล ๒๐ นาทีก็ถึง ตอนนั้นเข้าไปตั้งแต่ ๘-๙ โมงเช้า เข้าไปถึงร่วมบ่ายโมง ไปรถจิ๊ปเข็นเข้าไป ลากเข้าไป..." ที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กไฟก็เช่นเดียวกัน แม้จะขึ้นอยู่กับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอยู่ห่างไกลความเจริญไม่ถึง ๒๐ กิโลเมตร แต่ก็ยังไม่มีถนนจากหมู่บ้านสู่ตลาดหัวหิน ประชาชนได้รับความลำบากในการเดินทางติดต่อกับภายนอกอย่างมาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ก่อสร้างถนนอีกหลายเส้นทางซึ่งนอกเหนือไปจากเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสัญจรของราษฎร ยังรวมถึงเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ เป็นสำคัญอีกด้วย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพื้นที่อันตราย เช่น เส้นทางสายน่าน - ปัว - ทุ่งช้าง - ปอน - ห้วยโก๋น อันเป็นเส้นทางที่ผู้ก่อการร้ายคุกคาม เพื่อขัดขวางการก่อสร้างทางมากกว่า ๑,๗๐๐ ครั้ง ทำให้สูญเสียเครื่องจักรและชีวิตของนายช่าง คนงาน ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และพนักงาน ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นจำนวนมาก แม้จะเต็มไปด้วยภัยอันตรายนานา แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มิได้ทรงหวั่นยังเสด็จพระราชดำเนินไปเพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงและหน่วยราชการอื่นๆ ในการบุกเบิกสร้างทางเหล่านั้น
ช่วงพุทธศักราช ๒๕๒๑ - ๒๕๒๓ และ ๒๕๒๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้ดำเนินการปรับปรุงถนนในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่ออำนวยประโยชน์ให้พสกนิกรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ สามารถเดินทาง ติดต่อถึงกันด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตลอดเส้นทาง โครงการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวมีจำนวนมากถึง ๔๕ สาย ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางในภาคเหนือรองลงมาคือ ภาคใต้
การดำเนินงานตามโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำหรือฝายหรือโครงการฟาร์มตัวอย่างต่างๆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยังนำมาซึ่งการสร้างเส้นทางคมนาคมสายใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จ นั่นคือ นอกจากจะมีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างเพียงพอ มีทรัพยากรสำหรับการประกอบอาชีพให้มั่นคงแล้ว ยังต้องมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกเพื่อการติดต่อสัญจรของชาวบ้าน ซึ่งกรมทางหลวงชนบท หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบโดยตรงได้สนองตามพระราชดำริ ดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐาน เอื้อประโยชน์ต่อเกษตรกรในโครงการพัฒนาพื้นที่เหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปิดทางสร้างถนนในพื้นที่ชนบทได้สร้างคุณูปการต่างๆ มากมายทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นการเปิดเส้นทางเพื่อรับการพัฒนาในด้านต่างๆ ให้เข้าสู่ พื้นที่ ช่วยให้การเดินทางสัญจรระหว่างชุมชนคล่องตัวและช่วยลดต้นทุนในการขนส่งผลผลิตไปสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ราษฎรมีงานทำ สามารถประกอบอาชีพภายในภูมิลำเนา ลดการเดินทางเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่ มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นและสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทำให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคงเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
พุทธศักราช | เส้นทาง | หมายเหตุ |
๒๔๙๕ | * สายห้วยมงคล ประจวบคีรีขันธ์ | เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม |
๒๕๑๓ | * สายอำเภอรามัน - บ้านตะโละหะลอ อำเภอรือเสาะ นราธิวาส | เพื่อความมั่นคงทางการเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม |
๒๕๑๙ | * สายปราจีนบุรี - เขาใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๐๗๗ ปราจีนบุรี | เส้นทางสายยุทธศาสตร์ให้รถยนต์ทหารผ่าน เพื่อความมั่นคงของประเทศบริเวณชายแดนกัมพูชา |
๒๕๒๑ | * สายอำเภอระแงะ - บ้านดุซงญอ - นิคมพัฒนาภาคใต้ นราธิวาส | เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม |
๒๕๒๑ | * สายบ้านสามแยก - อำเภอสุไหงปาดี นราธิวาส | เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม |
๒๕๒๑ | * สายบ้านวาก - บ้านใหม่ - บ้านแม่ตะไคร้ ทางหลวงหมายเลข ๑๒๒๙ เชียงใหม่ - ลำพูน | ปรับปรุงเส้นทางข้ามภูเขาระหว่างบ้านเปาสามขา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ไปอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม |
หมายเหตุ: ภายหลังจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้สร้างเส้นทางคมนาคมอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: ทางหลวงตามรอยพระยุคลบาท พุทธศักราช ๒๕๕๐ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม